ผู้ปิดทองหลังพระ
ป๋าเต็ด ยกตัวอย่างเหตุการณ์เกินขึ้น อินชอลเกมส์ เรื่องราวนี้เกี่ยวกับ เหรียญทองที่ได้จาก กีฬาจักรยาน ในการแข่งขันจักรยานจะกำกึ่งระหว่าง แข่งแบบเป็นทีม กับ แข่งแบบบุคคล แต่ว่าคนที่ได้เหรียญทองมีเพียงคนเดียวคือคนที่เข้าเส้นชัยคนแรก และ ในการแข่งขันจะมีกฏอยู่ว่าแต่ละชาติส่งนักกีฬาได้สองคน ทีมชาติไทยได้ส่งนักกีฬาที่ลงแข่งขันครั้งนี้คือ
1.คุณ จันทร์เพ็ง นนทะสิน ข้อดีมีความสามารถด้านความอึดปั่นได้นานในระยะทางไกล
2.คุณ จุฑาธิป มณีพันธ์ ข้อดีมีความสามารถด้านสปิ๊น(ปั่นเร็ว)
แต่ทั้งสองคนก็ทำงานกันเป็นทีมเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย โดยโค้ชทีมชาติไทยวางแผนให้ คุณ จันทร์เพ็งปั่นนำไปเรื่อยจนเหลือระยะ 100 เมตรสุดท้าย แล้วให้คุณ จุฑาธิป ซึ่งเป็นคนปั่นตามหลัง สปิ๊น(รีบปั่นเข้าเส้นชัย) นั้นคือแผนที่เราวางแผนเอาไว้
โคชทีมชาติไทยเราก็ไม่ธรรมดารีบไปที่สนามซ้อมก่อนชาวบ้านเพื่อให้ทางนักกีฬาไปซ้อมที่สนามจริงก่อนชาวบ้าน 2-3วัน เพื่อสร้างความได้เปรียบเคย และหาจุดอ่อนจุดแข็งของสนาม ในแต่ละช่วง แน่นอนว่าในจุดแข็งนั้นมันดันมีช่วงปั่นขึ้นสะพาน จุดนี้คนที่ปั่นจักรยานทั่วไปจะรู้กันว่าเม่งเหนื่อยสาดดด(ปสก ส่วนตัว) เมื่อถึงวันแข่งจริงทีมชาติไทยต้องเจอกับ ตัวเต็งจ๋าอย่างทีมไทเป หรือ ไต้หวัน ในระหว่างการแข่งขันนั้น แน่นอนว่าเราจะปล่อยให้ทีมไทเปหนีเราไปไม่ได้ดังนั้นคุณ จันทร์เพ็ง ซึ่งตัวเองก็มีอาการลิ้นหัวใจรั่วอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ฝึกมาอย่างดี และด้วยความสุดยอดของตัวเค้า สามารถตามจี้ตูดไม่ให้ทีมไทเปหนีไปไหนได้
เมื่อมาถึงช่วงโค้งสุดท้าย คุณ จันทร์เพ็ง ยังคงทำหน้าทีของเค้าได้อย่างเยี่ยมยอดโดยออกแรงส่งให้กับ คุณ จุฑาธิป ออกตัวสปิ๊นแซงชาวบ้านเข้าเส้นชัยและทำให้ทีมชาติไทยได้เหรียญทองในเอเชี่ยนเกมส์ได้ในที่สุด
ป๋าเต็ดยังกล่าวต่อ เมื่อวันเวลาผ่านไป หากเราย้อนกลับมาดูประวัติศาสร์เหรียญทอง ของกีฬาจักรยาน เราจะก็พบว่านักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยที่ได้เหรียญนั้น คือ คุณ จุฑาธิป แต่เราจะกลับลืมไปว่ายังมีอีกคนหนึ่งทีทำงานร่วมกับ คุณ จุฑาธิป และสามารถทำให้ คุณ จุฑาธิป เข้าเส้นชัยคว้าเหรียญทองมาได้นั้นคือ คุณ จันทร์เพ็ง ซึ่งเปรียบเสมือน ผู้ปิดทองหลังพระ หรือ ลมใต้ปีก อันนี้เป็นแค่เพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้นแต่ในสังคมยังมีอีกเป็นร้อยเป็นพัน ผู้ที่ทำหน้าที่ปิดทองหลังพระ
เครดิต ป๋าเต็ด รายการเจาะใจ ช่วงคอลัมนิสต์ 13 พ.ย.57
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น