วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ปัญหาสามารถแก้ไขได้


            คุณ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ได้มาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับงาน one young world ที่เค้าได้ไปเข้าร่วมงาน และงานนี้เป็นการรวบรวมตัวแทนเด็กวัยรุ่นที่มีพลังความคิดสร้างสรรค์ในด้านต่าง ไม่ว่าจะเป็นด้ายธุรกิจ นักเคลื่อนไหว อื่น และบุคคลชั้นนำระดับโลกเพื่อมาประชุมระดมความคิดและแรกเปลี่ยนความคิดปัญหาต่าง ตามหัวข้อที่ได้ตั้งไว้แล้ว เช่น เรื่องโรคร้อนมีการระดมความคิดเห็นมากมาย

            หัวข้อแรกธุรกิจ มีนักธุรกิจชาวอินเดีย อายุ 27ปี ได้เขียน soft ware open source เพื่อให้บริษัทผลิตยาทั่วโลกเอาไปใช้งานเพื่อลดต้นทุนและทำให้ยานั้นถูกลง  เราๆท่านๆอาจจะ
ยังไม่รุ้ว่า ไอ้ยาที่มันแพงเพราะว่าเกินจาก ลิขสิทธิ software ที่มันแพง (แม่มเอ้ยยยยย พึ่งรู้)

            หัวข้อที่สองการเดินทางบนอวกาศ นักบินอวกาศคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่าในอนาคตการเดินทางในอวกาศจะเป็นแบบเชิงพานิช ทาง คุณสิงห์ กล่าวต่อว่าไม่จำเป็นต้องไปไกลถึงดาวอังคารแค่บินขึ้นไปถึงอวกาศและ ลอยอยู่อย่างนั้นให้โลกมันหมุนไปเรื่อยจนถึงประเทศเป้าหมายค่อยบินลงไป

             คุณสิง ยังได้พูดต่อเรื่องปัญหาการสู้รบต่างบนโลกใบนี้ไม่ว่าเป็น ปัญหาของ กลุ่ม IS ที่ไปโจมตีชาวเคอร์ดิชสถาน (ชาวเคอร์ไม่มีประเทศของตัวเอง เป็นชนกลุ่มน้อยที่กระจายตัวอยู่ในตะวันออกลาง) หรือ สงครามใน แอฟริกา เมื่อมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ไอ้ที่เรานั่งหื่มๆๆ ปัญหาเร็กเก้สกา กันอยู่ก่อนหน้านี้มันช่างเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับพวกเค้าเหล่านั้น

             อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ มีเด็กหญิงชาวเกาหลีหนือคนหนึ่งชื่อ ยองมี ปาร์ค ได้ขึ้นไปพูดบนเวที เธอกล่าวว่า เมื่อเธออยู่ที่ เกาหลีเหนือ ตัวเธอไม่กล้าแม้กระทั้งคิดไม่ดีต่อท่านผู้นำเพราะ ท่านผู้นำสามารถอ่านใจเธอได้ (เหยดแม่ม เหนียวไก่ทีเดียว) ที่เทอคิดแบบนั้นก็เพราะถูกสอนมาแบบนั้น
ต่อมาเธอพยายามหลบหนีออกจากเกาหลีเหนือ ไปยังประเทศจีน เธอเจอเหตุการณ์ที่น่าเสียใจที่สุด มีคนจะพยายามขมขื่นเธอ แต่แม่ของเธอพยายามปกป้องลูกสาวของตัวเองโดยยอมที่จะถูกข่มขื่นแทน ส่วนตัวเทอเองก็นั่งดูแม่เธอนั้นถูกข่มขื่น ปัจจุบันตัวเธอและครอบครัวก็ได้อยู่อาศัยที่เกาหลีใต้

            ปัญหาต่อมาน่าสนใจคือปัญหาความขัดแย่งในไอแลนเหนือ  ไอแลนเหนือ อยู่ภายใต้สหราชอาณาจักรและกลุ่มคนไอแลนเองต้องการอิสรภาพตัวพวกเค้าเอง จนมีการสู้รบกลางเมืองเป็น 10 ปี สุดท้ายเค้าก็สามารถกลับมาสงบสุขได้อีกครั้ง สาเหตุที่ทั้งสองฝ่ายต้องรบกันเพราะไม่มีการพูกคุยกันต่างฝ่ายต่างถูกปลูกฝังให้เชื่อมาแบบนั้น และต่างฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองถูกกดขี่ สุดท้ายเมื่อมีการพูดคุยกันแค่ใช้เหตุผลแค่การเข้าใจกันเพียงแค่นี้ก็สามารถยุติสงครามได้  คุณสิง ยังกล่าวต่อว่ามีเด็กชาวไอแลนบอกว่าเค้าอยากจะสร้างคาเฟ่กาแฟให้คนที่คิดสุดโต่งทั้งสองขั้วมานั่งจิบกาแฟเพื่อคุยกัน
ผมคิดว่าไทยก็สามารถทำได้นะแต่ว่าต่างฝ่ายต้องอย่าใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล แต่โดยส่วนมากก็เห็นอารมณ์ล้วนๆ

            ในที่ประชุมนี้เชื่อว่ายุคดิจิตอลนั้นจะมีแต่ข้อดีจนลืมไปว่าข้อเสียของดิจิตอลนั้นก็มีเช่นกัน
ท้ายสุด คุณสิง สรุปว่าที่ได้จากประชุมครั้งนี้คือ ปัญหาทุกอย่างบนโลกนี้สามารถแก้ไขได้เพียงแค่เราลงมือทำกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างบ่น จนไม่ได้ลงมือทำ

     


เครดิต คุณ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล  ช่วงคอลัมนิสต์ วรรณสิงห์ รายการเจาะใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น